Paring: KrisYeol (Kris x Chanyeol)
Rate: NC-17
Author: PAR
-------------------------------------------------------------------------------------------------
ปาร์ค ชานยอล เป็นคนหล่อ
ไม่ว่าจะรูปร่าง ส่วนสูง หรือหน้าตา เมื่อทุกอย่างรวมกัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เพอร์เฟค
ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในหนุ่มฮอทประจำคณะนิเทศศาสตร์ พ่วงมาด้วยมาดหนุ่มนักดนตรีมากความสามารถ โดยเฉพาะกลองชุดกับกีต้าร์ ที่โชว์ลีลาเมื่อไหร่ได้เป็นเรื่องให้ใครหลายคนปลาบปลื้มแทบจะละลายไปตามๆ กัน
หากต้องการการการันตีก็ไม่มีปัญหา เดือนคณะบริหารชานยอลก็ทิ้งมาแล้ว ฟังไม่ผิดหรอก เดือนคณะ ง่ายๆ ก็คือผู้ชายนั่นแหละ ความเป็นไบเซ็กชวลกับมั่วไม่เลือกมีเส้นบางๆ กั้นอยู่ ชานยอลเคยได้ยินมาแบบนั้น ตอนแรกๆ ก็ไม่พอใจแต่นานๆ ไปเริ่มจะปล่อยวาง จะคบจะควงกับใครมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาแคร์ว่าจะโดนนินทาว่าร้ายยังไงบ้าง นี่เมื่อวานก็เพิ่งปฏิเสธคำรักเด็กอักษรไป บอกเหตุผลตามตรงว่าเป็นเพราะไม่แน่ใจสถานะตัวเองเนื่องจากตอนนี้อยู่ในช่วงลดระดับความสัมพันธ์กับสาวสวยดีกรีผู้นำเชียร์ของมหาลัย
เห็นมั้ย ปาร์ค ชานยอล ก็ยังมีศีลธรรม
รูปหล่อ นิสัยดี ไม่มีพิษภัย ใครจะไม่ชอบ
“ปาร์ค ไปเร็ว” บิดขี้เกียจซ้ายขวาก่อนจะคว้าเป้ย้วยๆ ขึ้นพาดไหล่แล้วเดินตามเพื่อนออกไปจากห้องเรียน สองหูเงี่ยฟังบทสนทนาของเพื่อนที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมวงดนตรี แต่ปากกับตาต้องคอยยิ้มตอบการทักทายของสาวๆ ทั้งหลายทั้งที่เรียนเซคเดียวกันและพวกที่บังเอิญผ่านมา
“หล่อ หล่อเหลือเกิน แหมไอ้ชิบหาย ใครก็ได้จับแม่งไว้หน่อยกูขอเหยียบหน้ามันซักที” เสียงประชดประชันจากเซฮุนทำให้ชานยอลยักคิ้วให้แล้วหัวเราะ ยกเท้าขึ้นถีบด้วยแรงไม่เบานักเมื่อแบคฮยอนที่ยืนอยู่ข้างๆ บ้าจี้จะเข้ามาจับตัวเขาไว้จริงๆ
“เชี่ยไรมึงเซฮุน ยังไม่ชินหรือไง” สะบัดหน้าเบาๆ ให้เส้นผมสีควันบุหรี่เข้าทรง ยาวใกล้จะทิ่มตาแล้ว สงสัยต้องหาเวลาไปตัด
“ชิน แต่กูหมั่นไส้มีไรมั้ย ตกลงเอาไง แดกที่ไหนยังไงกี่โมง กูจะได้เคลียร์คิวถูก” ถามจบก็แลบลิ้นเลียปากอย่างที่ทำเป็นนิสัย ขยับมือพับแขนเสื้อนักศึกษาที่คลายออกให้เข้าที่ ซึ่งท่าทางแบบนั้นก็ทำให้มือคีย์บอร์ดของวงกลายเป็นจุดสนใจของกลุ่มนักศึกษาหญิงที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่ไม่ไกล และแน่นอนว่าพอเซฮุนรู้ตัวก็หันไปมองแล้วยกยิ้มที่คิดว่าหล่อที่สุดไปให้ทันที
ก็ไม่ได้ต่างจาก ปาร์ค ชานยอล เท่าไหร่เลย
“แดกไรวะ”
“นั่นไง มัวแต่อ่อย ฟังสิเวลากูพูดน่ะ บอกมันดิ๊จงอิน กูคุยโทรศัพท์แปบ” บ่นเพื่อนได้แค่นั้นแล้วก็เดินแยกออกไปคุยโทรศัพท์ ชานยอลจึงหันไปเลิกคิ้วเป็นเชิงถามใส่เพื่อนอีกคนที่ยืนหาวอยู่ข้างๆ
“เทามันโทรมาชวนไปแดกเหล้าคืนนี้ แล้วก็ให้เลือกว่าจะไปร้านเฮียหรือบ้านมัน”
“เนื่องในโอกาสอะไรวะ”
“เซ็งๆ มั้ง เมื่อวานมันโดนแฟนเด็กที่ควงอยู่ลากไปชก” คำตอบจากจงอินทำเอาชานยอลต้องถอนหายใจเหนื่อยหน่าย เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เทามีปัญหากับแฟนชาวบ้าน ด่าแล้วเตือนแล้วก็เท่านั้น เอาแต่บอกว่าตอนกูไปจีบเค้าโสดทุกคน
ไม่รู้มันเกิดมามีกรรมหรือว่าซื่อบื้อกันแน่
คุยกันยังไม่ทันได้ข้อสรุปเซฮุนก็เดินกลับมา บอกว่าไปร้านเฮียไม่ได้แล้วเพราะซ้อเจ็บท้องจะคลอดเลยต้องปิดร้านไปเฝ้าที่โรงพยาบาล แถมยังยิ้มหน้าระรื่นตอนที่บอกว่าตัวเองเป็นตัวแทนของทุกคนอวยพรให้ซ้อและหลานปลอดภัยแล้ว เป็นอันว่าวงเหล้าวันนี้ต้องไปตั้งรกรากที่บ้านเทาซึ่งเจ้าของบ้านเองก็รู้เรื่องแล้วและกำหนดเวลามาให้เสร็จสรรพ สองทุ่มตรงไม่ขาดไม่เกิน
“มึงว่าเฮียจะได้ลูกชายหรือลูกสาว” เซฮุนถามขึ้นชวนให้ทุกคนต้องกรอกตาเพื่อขบคิด ชานยอลส่ายหัวไม่ออกความเห็นในขณะที่จงอินตอบว่าลูกสาว แต่เจ้าของคำถามส่ายหน้าไม่เห็นด้วย
“กูว่าหลานเราอาจจะเป็นตุ๊ด” ชานยอลยกมือขึ้นตบหัวเพื่อนหนึ่งป้าบข้อหาพูดจาไม่เป็นมงคล แต่คนโดนตบหัวเราะเอิ้กอ้ากชอบใจก่อนจะหุบยิ้มฉับแล้วเปลี่ยนเป็นวิ่งไล่เตะแบคฮยอนแทนเพราะประโยคสั้นๆ
“ลูกเฮียไม่เป็นตุ๊ดหรอก แต่ลูกพ่อมึงอ่ะใช่”
-------------------------------------------------
เสียงโห่แซวผสมกร่นด่าดังขึ้นทันทีที่ชานยอลก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน น้ำแข็งหลายก้อนถูกปามาใส่จนต้องร้องบอกให้หยุดแล้วอธิบายว่าที่มาช้าเป็นเพราะรถติดแถมยังเลี้ยวผิดซอย เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนที่มาก่อนให้กับความโง่แดกที่นานๆ ทีจะมีให้เห็นจากหนุ่มสุดฮอทอย่างปาร์คชานยอล
“กูไม่ได้มานานแล้วมั้ยห่า มีลืมบ้างสิวะ อีกอย่างสมองกูมีไว้จำหน้าหญิง ไม่ได้มีไว้จำแหล่งกบดานโจรป่า” พูดจบก็กระโดดหลบเหล้าที่เทาเทใส่ฝาแล้วสาดมาใส่ก่อนจะหัวเราะเสียงดัง ทำเนียนหยิบน้ำแข็งในถังมาปาใส่เจ้าของบ้านผสมโรงกับเพื่อนที่หันไปรุมด่ามันแทนข้อหาเล่นอะไรให้เปลืองเหล้า
สอดส่องสายตาหาที่ว่างแล้วเดินไปนั่งลงทันที ด้านซ้ายเป็นเซฮุนที่นั่งติดกับเทาและด้านขวาเป็นแฟนของแบคฮยอนที่รู้สึกจะชื่ออะไรซูๆ ซักอย่างชานยอลก็ไม่ค่อยใส่ใจที่จะจำ เพียงแค่ยิ้มทักทายอย่างเป็นมิตรเมื่ออีกฝ่ายหันมาโค้งให้น้อยๆ
“เฮ้ยมึง ตรงนี้ที่เฮีย ไปนั่งที่อื่น”
“ห้ะ?” หันไปขมวดคิ้วใส่เซฮุนที่กำลังเอาเท้าเขี่ยผสมยันยิกๆ ให้ร่างโปร่งออกไปจากที่นั่งข้างตัว
เฮีย? ไหนว่าเมียคลอดลูก?
“ไม่เป็นไรเซฮุน เฮียนั่งไหนก็ได้” ยังไม่ทันได้เอ่ยปากถามให้เข้าใจ เสียงๆ หนึ่งก็ดังขึ้นข้างหลัง ชานยอลเอี้ยวตัวไปมองพอดีกับที่อีกคนก้มลงมาสบตา
ใบหน้าดูดีนั้นทำให้รู้ว่าบุคคลมาใหม่เป็นคนละ ‘เฮีย’ กับที่ชานยอลคิด ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งภายใต้เสื้อคอวีสีเทาสบายๆ ก้าวเท้าเข้ามาใกล้ ในมือมีจานขนมซึ่งก็คงไม่พ้นจะเป็นกับแกล้ม คิ้วเข้มเหนือดวงตาเรียวนั้นเลิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นคนที่กำลังนั่งแทนที่ตัวเองจ้องมานานเกินไป แต่สุดท้ายก็เลือกจะยกยิ้มน้อยๆ ส่งไปให้
แก้มที่นูนขึ้นเป็นก้อนกลมเล็กน้อยจากการอมยิ้มนั้นแม้ว่าแทบจะมองไม่ออกแต่ก็ทำให้ชานยอลตาพร่า
แบล็ก เลเบลเป็นพยาน ชานยอลไม่ได้ฝันไปใช่หรือเปล่า
น่ารักสัสๆ
“ไม่เอาเฮียนั่งนี่แหละ งั้นขยายวง สัสปาร์คเขยิบไป” เป็นอีกครั้งที่เซฮุนถีบเข้าที่ขา ชานยอลจึงได้สติละสายตาจาก ‘เฮีย’ แล้วขยับไปด้านข้างให้มีที่ว่างพอสำหรับอีกคน ความคิดความอ่านประมวลผลรวดเร็วแต่ก็ตีกันมั่วจนต้องขอตั้งสติด้วยการกระดกน้ำเมาเข้าปาก พลันสายตาก็เบนไปสบกับจงอินที่มองมายิ้มๆ
ตอนแรกก็ไม่เข้าใจรอยยิ้มของมือกีต้าร์ตัวดำเท่าไหร่ แต่พอเห็นว่าอีกคนส่งสัญญาณให้เทาแล้วพยักเพยิดไปทางคนแปลกหน้าที่เพิ่งนั่งลง ชานยอลถึงได้เข้าใจ
“เออเฮีย นี่เพื่อนวงผมอีกคน ชานยอลครับ เป็นมือกลอง ชานยอลนี่เฮียคริส ลูกพี่ลูกน้องกูเอง” คริสหันไปอมยิ้มให้คนข้างๆ อีกครั้งจนตาเป็นสระอิ ซึ่งอีกฝ่ายก็ผงกหัวให้พร้อมกับยิ้มนิดๆ
ชานยอลยกแก้วในมือขึ้นจรดริมฝีปากอีกครั้งแบบพยายามเก็บอาการสุดๆ ลอบยิ้มมุมปากเมื่อเหลือบไปเห็นสายตาวิบวับเหมือนจะแซวจากจงอิน หึ รู้ดีนักไอ้ดำ
กิจกรรมเบสิกในวงเหล้าก็หนีไม่พ้นการร้องเพลง แน่นอนว่านักร้องประจำวงอย่างแบคฮยอนก็ครองไมค์เหมือนเคย พอแหกปากร้องจนเสียงแหบถึงยอมสละไมค์ให้เทาที่ร้องไปก็ยื่นไมค์จ่อปากคนอื่นไป ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือบ้างตามกำลังศรัทธา
จะฮาที่สุดก็คงเป็นจงอิน ร้อยทั้งร้อยยอมรับว่าผู้ชายคนนี้เล่นกีต้าร์ได้ขั้นเทพ แต่กับการร้องเพลงนี่คำว่าหลงคีย์ยังน้อยไป เทาก็รู้ข้อนี้ดีแต่ก็ยังเลือกจะกดเพลงคู่แล้วสลับกันร้องระว่างตัวเองกับจงอิน แรกๆ ไอ้มือกีต้าร์ก็หลงของมันคนเดียว แต่พอร้องไปสามสี่ท่อนมือเบสอย่างเทาก็ถึงกับไปไม่เป็นเพราะเพื่อนตัวดำหลงคีย์โหยหวนชนิดกู่ไม่กลับ สุดท้ายกลายเป็นพากันหลงเข้าป่าเข้าดง ลำบากคนที่เหลือนั่งงอตัวขำท้องคัดท้องแข็งไปตามๆ กัน
“เฮ้ยมึงๆ พวกมึงเงียบก่อน เฮียโทรมา” เซฮุนยกถังน้ำแข็งขึ้นเคาะเพื่อเรียกความสนใจจากทุกคน เทารีบวิ่งไปปิดเสียงเพลงพอดีกับที่เซฮุนเลื่อนนิ้วกดเปิดสปีกเกอร์โฟน
“ฮัลโหลเฮียยย” เซฮุนกรอกเสียงยานคางลงไปแล้วเงี่ยหูฟัง
‘เออ ยังกินกันอยู่เหรอ’
“ช่าย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเฮียโทรมาขัดจังหวะรู้ตัวป่ะ” เทาที่วางมือค้ำหัวเซฮุนอยู่ตะโกนเข้าไปในโทรศัพท์ แต่หลังจากนั้นก็ร้องโอ้ยเพราะแบคฮยอนหยิบน้ำแข็งมาปาใส่กับการใช้คำของเพื่อนตัวเอง
“เฮียโทรมามีไรป่ะครับ ซ้อเป็นไงบ้าง คลอดยัง” ชานยอลเอี้ยวตัวไปพูดบ้าง และเพราะแบบนั้นทำให้ไหล่ของเจ้าตัวกับคริสเบียดกันพอดี
‘ปลอดภัยดี กูได้ลูกชาย’ เสียงโอ้ว้าวดังขึ้นรอบวงตามมาด้วยเสียงแสดงความยินดี น้ำเสียงของคนในโทรศัพท์ฟังยังไงก็รู้ว่าดีใจและตื่นเต้นแค่ไหน ทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็พลอยปลาบปลื้มไปด้วย จะมีก็แต่แบคฮยอนที่แทรกขึ้นมาว่าให้เฮียรีบเลี้ยงให้โตจะได้พาหลานมาเลี้ยงเหล้าเป็นการรับขวัญ ซึ่งก็ได้ประโยคตอบรับกลั้วหัวเราะกลับมาจากเฮียสุดที่รักว่า
‘ตีนกูเถอะ’
ทุกคนกล่าวคำยินดีอีกครั้งแล้วบอกลาเมื่อคนปลายสายบอกว่าต้องกลับไปดูแลภรรยา เซฮุนกดปิดสปีกเกอร์โฟน ยกขึ้นแนบหูแล้วคุยอีกสองสามประโยคก่อนจะวางสายไป
เพราะเทาบอกว่าขี้เกียจเดินไปเปิดเพลงอีก การร้องเพลงจึงหยุดลงเพียงเท่านั้น กิจกรรมเบสิกอีกอย่างจึงบังเกิด นั่นคือการนินทาระยะเผาทั้งเป็น
เสียงพูดคุยสลับกับเสียงหัวเราะที่ดังต่อเนื่องทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน หลักๆ ก็คงเป็นแบคฮยอนและเซฮุนที่พูดเป็นต่อยหอย ชานยอลเพียงแค่คอยผสมโรงโจมตีเวลามีใครซักคนตกเป็นประเด็นสนทนา หลากหลายเรื่องราวสัพเพเหระถูกยกขึ้นแซวกันไปเผากันมาตามประสาคนมีวีรกรรมมารวมตัวกัน ซึ่งแน่นอนว่าท็อปปิกก็วนมาถึงชานยอลเข้าจนได้ และดูเหมือนจะโดนรุมด่ามากกว่าแซว
“มึงก็พูดเกินไป กูแค่คบเรื่อยๆ ไม่ใช่ก็จบแค่นั้นเอง” เอ่ยเถียงแบคฮยอนที่เริ่มกรึ่มๆ แล้วพูดมาก หาว่าปาร์คชานยอลเป็นคนสำส่อน
“ถุย หลอกฟันเขาไปทั่วไม่ว่า ส๊าธุซักวันกูอยากให้มีคนฟันมึงแล้วทิ้งบ้าง โอ๊ย!” เมล็ดถั่วลิสงบนจานกับแกล้มเป็นอาวุธที่ดีที่สุดสำหรับชานยอลในตอนนี้ ซึ่งก็ดีจริงๆ เมื่อมันถูกปาไปโดนกลางหน้าผากคนที่แช่งเขาได้พอดิบพอดี
“เสียใจ อย่างกูต้องอยู่บนตัวคนอื่นเท่านั้นว่ะ” พูดจบก็ต้องหัวเราะเมื่อเสียงถ่มถุยดังขึ้นจากรอบทิศ รวมถึงเสียงหัวเราะเบาๆ จากคนข้างตัว
ชานยอลเหลือบตามองอีกคนที่ไม่ค่อยพูดแล้วอมยิ้มกับตัวเอง ส่วนมากคริสจะนั่งยิ้มหรือหัวเราะไปกับเรื่องที่คนอื่นคุยกัน มีร่วมวงบ้างถ้าเป็นเรื่องของเทา ริมฝีปากเรียบสวยดูสุขภาพดีในแบบของผู้ชายดึงดูดชานยอลไม่น้อยยามที่มันแย้มยิ้มหรือขยับตอบโต้เวลามีคนพูดด้วย
กระดกก้นแก้วขึ้นสูงเพื่อกำจัดของเหลวสีอำพันให้หมดในคราวเดียว รอจังหวะซักพักก่อนจะค้ำมือซ้ายลงกับพื้นด้านหลังของคริส เอี้ยวตัวเข้าไปใกล้ร่างโปร่งนั้นก่อนที่มือขวาจะยื่นแก้วเปล่าผ่านหน้าอีกคนไปหาเทา
“เติมเหล้าให้หน่อย”
“...”
การกระทำของชานยอลทำเอาเพื่อนที่รู้ตื้นลึกหนาบางออกอาการกันเป็นแถบๆ เทาถลึงตาใส่แต่ก็ยอมรับแก้วไปชงเหล้าให้ในขณะที่เซฮุนยกมือขึ้นมากุมขมับ ส่วนจงอินอาการหนักสุด หันไปซุกหน้าลงกับซอกคอเด็กที่หิ้วมาด้วยแล้วขำจนไหล่สั่น ยังดีที่หลังจากนั้นทุกคนก็ยังคงส่งเสียงโหวกเหวกต่อไปไม่ได้ใส่ใจกับการกระทำของชานยอลเท่าไหร่นัก
คนกำลังรอแก้วเหล้าใจเย็นพอจะไม่หันไปมองว่าคนที่เกือบจะอยู่ในอ้อมกอดของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง แต่ระยะห่างแค่นี้ก็ใกล้พอที่จะทำให้รู้ว่าคริสตัวหอม และกำลังเกร็ง
“อะแฮ่ม” เสียงกระแอมที่ดังอยู่ใกล้ๆ หูทำให้ชานยอลต้องกลั้นยิ้มแล้วหันไปหาอีกคน ตีหน้านิ่งเลิกคิ้วเหมือนตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด
“ครับ? เฮียจะเติมด้วยมั้ย?” คนถูกถามขมวดคิ้วให้กับระยะห่างที่ออกจะใกล้เกินไปแต่ก็พยักหน้าตอบ กระแอมเบาอีกครั้งแล้วหรี่ตามองกลับเมื่อเห็นว่าชานยอลเอาแต่จ้องตัวเอง และถ้ามองไม่ผิด แม้จะแค่แปบเดียวแต่หนุ่มชาวจีนก็เห็นว่าชานยอลกระตุกยิ้ม
ชานยอลหยิบแก้วของคริสส่งให้เทาในขณะเดียวกันก็รับแก้วของตัวเองคืนมา ยอมรับว่าเสียดายที่ต้องผละออกจากกลิ่นหอมๆ ของอีกคน แต่เอาเถอะ
อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
-------------------------------------------------
“อือ” เสียงทุ้มต่ำฮึมฮำในลำคอ พลิกตัวให้อยู่ในท่าสบายหลังจากถูกวางลงบนเตียง แผ่นอกกว้างขยับขึ้นลงสม่ำเสมอตามจังหวะการหายใจ บ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าของร่างกำลังหลับ
“เฮีย” แม้จะยังมีสติแต่สภาพก็ไม่ได้ต่างจากคนอายุมากกว่าซักเท่าไหร่ ที่กินเข้าไปก็ไม่ใช่น้อยๆ นึกขอบคุณตัวเองที่คอแข็งในระดับหนึ่ง
“...”
“เฮียครับ” มือขวาถือวิสาสะเอื้อมไปลูบแก้มของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่ชายเพื่อน นิ้วโป้งเกลี่ยไปมาเบาๆ ให้ความรู้สึกเพลินมือ และคงเพลินเกินไปเพราะชานยอลห้ามตัวเองไม่ทันแล้วตอนที่จมูกของเขากดลงกับข้างแก้มของคนที่นอนหลับตาอยู่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเกือบจะเมาหรือเพราะอีกฝ่ายมีแรงดึงดูดมากเกินไป
สูดกลิ่นหอมเข้าไปเต็มปอดแล้วผละออกห่าง เปลือกตาของคนถูกกระทำขยับยุกยิกก่อนจะลืมตาขึ้น ชานยอลมองภาพตรงหน้าแล้วอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดบนสุดแล้วหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ
“ชานยอล?”
“ครับ ผมเอง” สองมือค้ำลงใกล้ไหล่ของคนอายุมากกว่า คริสมองตามท่อนแขนภายใต้เสื้อเชิ้ตสีเลือดหมูที่พับขึ้นมากองไว้ที่ข้อศอกแล้วเบือนกลับขึ้นไปมองหน้าคนด้านบน
“คนอื่นๆ ล่ะ” เอ่ยถามทั้งที่ยังสบตากันและกันนิ่ง ไม่มีใครคิดจะหลบ
“ตายเกลื่อนอยู่ข้างนอก” คริสพยักหน้าเมื่อได้รับคำตอบ อาการปวดตุบๆ ในหัวทำให้นึกย้อนไปช่วงเวลาก่อนหน้านี้ จำได้แค่ว่าตัวเองก็นั่งฟังเด็กรุ่นน้องคุยไปเรื่อยๆ แก้วเหล้าก็ไม่รู้ทำไมถึงไม่พร่องลงซักที แถมยังเข้มขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกคิดว่าเขาคงเมา แต่พอตื่นมาแล้วเห็นว่าใครเป็นคนพาเขามาที่เตียง ถึงได้เริ่มมั่นใจ ไหนจะสัมผัสแปลกๆ ก่อนลืมตานั่นอีก
“นายมอมฉัน?” คริสถามด้วยน้ำเสียงและแววตาปกติ ไม่มีกระแสความหวั่นไหวแม้จะอยู่ในสภาพที่อาจจะเรียกได้ว่าเกือบโดนคร่อม ชานยอลยิ้ม งอแขนลง ทำให้ใบหน้าลงไปใกล้คนด้านล่างมากกว่าเดิม
“จะว่างั้นก็ได้ครับ” จริงๆ ก็แค่ส่งซิกนิดๆหน่อยๆให้จงอิน โทษเขาคนเดียวคงไม่ได้ ต้องโทษจงอินด้วยที่รู้ใจเกินไป
สายตาเจ้าชู้แพรวพราวของคนตรงหน้าทำให้คริสนึกขำ มีใครเคยบอกเด็กคนนี้ไหมว่ามันดูไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่กับหน้าตาแบบนี้ แล้วนี่คิดยังไงถึงมาคร่อมคนอื่นเขาทั้งที่เสื้อตัวเองก็ปลดกระดุมไว้
ขาวดีซะด้วย
“เฮีย” ชานยอลเรียกเบาๆ เมื่อเห็นว่าตัวเองโดนสำรวจด้วยสายตาวิบวับ ซึ่งมันก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ ชินเสียแล้วกับการโดนสายตาหลงใหลจ้องมอง รูปลักษณ์ภายนอกเขามักดึงดูดคนอื่นได้เสมอ และมันจะยิ่งเพิ่มขึ้นทวีคูณเมื่อคนเหล่านั้นได้ลองมาอยู่ใต้อาณัติของปาร์คชานยอลคนนี้
และตอนนี้ก็แค่เป็นคราวของพี่ชายเชื้อสายจีนเท่านั้นเอง
ราวกับแรงโน้มถ่วงของโลกมากขึ้น ใบหน้าได้รูปของชานยอลลดต่ำลงเรื่อยๆ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจเจือกลิ่นแอลกอฮอล์ของคนใต้ร่างที่เฉียดผ่านเหนือริมฝีปาก ก่อนจะกลายเป็นรินรดอยู่ที่ข้างแก้มเมื่อเขาเอียงหน้าทาบทับริมฝีปากลงไปกับปากอีกคน กดแนบลงไปแล้วเม้มคลึงกลีบปากบนล่างจากแผ่วเบาจนหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
“อืม..” คริสส่งเสียงในลำคอราวกับกำลังพึงพอใจ ซึ่งสำหรับชานยอลนั่นถือเป็นสัญญาณการเริ่มต้นที่ดี มือข้างหนึ่งยกขึ้นวางบนหน้าท้องที่เป็นลอนนิดๆ ในขณะที่ลิ้นอุ่นเริ่มทำหน้าที่แตะเลียตามริมฝีปากสลับกับเบียดแซะรอยแยกตรงกลางจนในที่สุดคริสก็เปิดปากให้อีกฝ่ายได้เข้าไปสำรวจภายใน
รสสัมผัสเป็นไปตามลำดับ จากเนิบช้านุ่มนวลกลายมาเป็นการดูดดึงที่เร่าร้อนขึ้น การตอบสนองของคริสทำให้ชานยอลอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ เขาเป็นแบบนี้เสมอเวลาเจอคนที่ดูเหมือนจะไม่โอนอ่อนไปตามการกระทำของเขาง่ายๆ ทุกครั้งความท้าทายและอยากเอาชนะจะก่อเกิดขึ้นในห้วงความคิด ซึ่งแน่นอนว่าปาร์คชานยอลก็เป้นผู้ชนะทุกครั้งไป และรางวัลของผู้ชนะก็ได้สีหน้าและเสียงของความสุขสมจากคนที่อยู่ใต้ร่างมาเชยชม
ต่างคนต่างหอบหายใจรินรดซึ่งกันและกันเมื่อผละจูบออก ชานยอลขยับมือสอดเข้าใต้เสื้อของคนด้านล่างไปพร้อมๆ กับริมฝีปากที่พรมจูบไปตามสันกรามและลำคอ กลิ่นเฉพาะตัวของอีกฝ่ายทำเอาชานยอลเผลอวนเวียนสูดดมอยู่พักใหญ่ นอกจากเหล้าก็น่าจะเป็นกลิ่นนี้แหละที่ทำให้เขาเมา ฝ่ามือที่ไต่ขึ้นมาถึงกลางอกลูบไล้ลงน้ำหนักเบาบ้างหนักบ้างสลับกัน
“ชานยอล” เพราะกำลังจดจ่ออยู่กับการฝากร่องรอยสีระเรื่อไว้บนลำคอของคริสทำให้คนถูกเรียกเลือกที่จะครางฮือในลำคอเพื่อตอบรับเสียงอันแหบพร่านั้น
คริสเงยหน้าขึ้นเปิดทางให้คนเด็กกว่าได้ทำตามใจ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอลที่โดนหลอกล่อให้กินเข้าไปซะเยอะทำให้เขารู้สึกมากกว่าและเร็วกว่าปกติ ช่วงเวลาที่ได้หลับไปแม้จะไม่นานมากแต่ก็ทำให้สร่างเมาได้ในระดับหนึ่ง และอาจจะหายเมาในเร็วๆ นี้เลยก็ได้เพราะบนตัวเขาก็ดันมีเด็กแก่แดดมาลวนลามให้ใจสั่นเป็นพักๆ
สองมือของชายหนุ่มชาวจีนยกขึ้นประคองใบหน้าเรียวให้กลับมาประกบปากกันอีกครั้ง ต่างกันตรงที่ครั้งนี้คริสดูจะเป็นฝ่ายที่รุกล้ำเข้าไปก่อน ชานยอลดูแปลกใจแต่ไม่นานตอบสนองกลับไปอย่างช่ำชองไม่แพ้กัน เสียงดูดดึงดังกระทบโสตประสาทของคนทั้งคู่พาให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ ชายหนุ่มนักดนตรีลอบยิ้มเมื่อรู้สึกได้ว่ารสชาติและลีลาการจูบของพี่ชายตัวหอมคนนี้ไม่ธรรมดา
“..อื่ม” คิ้วเรียวของชานยอลกระตุกเข้าหากันเมื่อรู้สึกได้ว่าฝ่ามืออุ่นที่เคยเค้นคลึงอยู่แถวๆ ท้ายทอยกำลังเลื่อนลงไปตามสีข้างจนถึงเอว ลิ้นที่เคยได้กระหวัดดูดดึงอยู่เมื่อครู่กลายมาเป็นฝ่ายไล่ต้อนเขาเสียเอง พอจะผละออกก็โดนมืออีกข้างรั้งใบหน้าไว้จนตอนนี้เริ่มจะหายใจไม่ออก ..ยอมรับว่าเก่ง
แต่นี่มันเก่งเกินไปหรือเปล่า
“!!” ทุกอย่างเกิดขึ้นในเสี้ยววินาทีจนชานยอลไม่มีสิทธิแม้แต่จะอุทาน คนที่คิดว่าอยู่ในอาการมึนเมาออกแรงดึงจนมือที่ค้ำอยู่กับที่นอนนั้นเสียหลักจนทำให้ร่างโปร่งล้มลงไปทับอีกฝ่ายก่อนจะโดนพลิกตัวลงไปนอนอีกฝั่งของเตียงตามด้วยร่างของคริสที่ลุกขึ้นมาคร่อมชานยอลไว้ทั้งตัว ใบหน้าที่เคยคิดว่ามันน่ารักเวลายิ้มก้มลงมาจนชิดแล้วกดริมฝีปากป้อนจูบลึก
“อึก”
แม้ลึกๆ จะตกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันแต่ก็ควบคุมสติได้ไวพอสมควร ประสบการณ์ทั้งหมดที่สั่งสมมาถูกงัดขึ้นใช้เพื่อป้อนจูบร่างด้านบนกลับไป ไม่ยอมให้ตัวเองโดนไล่ต้อนอยู่ฝ่ายเดียว
ซึ่งการกระทำนั้นสำหรับคริสทำให้ชานยอลดู ..น่ารัก
เด็กน้อย
เพราะไม่สามารถตัดสินกันได้ด้วยจูบ มือของร่างโปร่งจึงสอดเข้าไปใต้เนื้อผ้าสีเทาของคนด้านบนแล้วลากนิ้วตามแนวกระดูกสันหลังขึ้นมาจนถึงหลังต้นคอ จงใจเน้นย้ำสัมผัสให้อีกคนหวามไหว ที่เหลือก็แค่รอจังหวะที่จะพลิกขึ้นเป็นฝ่ายคุมเกมเหมือนเดิม ปล่อยให้คนอายุมากกว่าได้แสดงฝีมือจนกว่าจะพอใจ หรือถ้าอยากจะออนท็อปชานยอลก็คงไม่ขัดศรัทธา
คริสเลื่อนตัวลงกดจูบขบเม้มตามซอกคอเหมือนที่ชานยอลเคยทำก่อนหน้านี้ และเพราะปลดกระดุมเม็ดบนสุดไว้ ริมฝีปากหนาจึงมีพื้นที่ในการซุกไซร้ร่างกายอีกฝ่ายมากขึ้น แม้จะเป็นผู้ชายแต่คนตรงหน้าก็ขาวนวลเนียนในแบบที่เขาชอบ มือสวยยกขึ้นปัดข้อมือของคริสออกตอนที่พยายามจะปลดกระดุมที่เหลือ
“หืม?” เลิกคิ้วใส่การกระทำนั้นเหมือนจะถามว่าตัวเองทำอะไรผิด ตีหน้าซื่อแต่ท่อนขายาวขยับเข้ามาวางกลางหว่างขาอีกคนแล้วดันขึ้นสูงเสียดสีกลางลำตัว ชานยอลขมวดคิ้วแน่นจ้องหน้าคนอายุมากกว่าด้วยสายตาตระหนกปนอยากด่าแต่ก็ไร้ซึ่งคำพูดใดๆ ออกมาจากปาก คริสยิ้มใส่ตาร่างตรงหน้าแล้วขยับขากดคลึงด้านล่างมากกว่าเดิม
“อย่าซนสิครับ” ชานยอลเอ่ยปรามแล้วกระถดตัวหนีแต่ก็โดนขยับตามทุกครั้ง รู้ตัวอีกทีลำตัวก็สัมผัสกับอากาศเย็นๆ ในห้องเพราะกระดุมถูกปลดออกไปหมดแล้ว สบถคำหยาบในใจเมื่อรู้สึกได้ว่ากลางลำตัวมีปฏิกิริยาเพียงเพราะโดนบดเบียด
บัดซบ
“เรานั่นแหละ นอนเฉยๆ เถอะ”
“ปล่อยผม เฮียอยู่ผิดตำแหน่งนะ” เอ่ยสั่งด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“เด็กแก่แดด”
รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงวิ้งในหู ตั้งแต่เริ่มมีความสัมพันธ์กับคนอื่นมา ไม่เคยมีคนไหนพูดกับชานยอลแบบนี้ซักครั้ง โดยเฉพาะเมื่ออยู่บนเตียง แค่เขาจูบและสัมผัสเล็กน้อยก็ขี้คร้านจะครางเสียงสั่นกันแทบทุกคน
และเพราะคำนั้นทำให้คนโดนว่าผลักคนอายุมากกว่าให้ล้มลงไปแล้วพลิกตัวขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็นและเป็นมาตลอด ในเมื่อโดนสบประมาทขนาดนี้ปาร์คชานยอลก็จะเริ่มเอาจริงซะที อยากได้ยินเหมือนกันว่าเสียงทุ้มแอบกวนประสาทแบบนี้เวลาอยู่ในอารมณ์อย่างว่าจะเปลี่ยนไปแค่ไหน
“ฮึๆ” เสียงหัวเราะในลำคอ ไม่ทำให้ร่างโปร่งโมโหเท่ากับดวงตาสีเข้มที่มองขึ้นมาพร้อมแววตาเอ็นดู ไวเท่าความคิด ฟันขาวก้มลงกัดมุมปากของคริสอย่างแรงจนมันเป็นแผล อมยิ้มได้ใจเมื่อเจ้าของโพรงปากร้องโอ้ยเพราะความเจ็บ มือใหญ่ยกขึ้นแตะมุมปากที่มีเลือดซึมนิดๆ
“เตือนแล้วนะ ว่าให้นอนเฉยๆ”
“โอ๊ย! เฮ้ย!!”
เสียงแรกร้องออกมาเพราะจู่ๆ คริสก็กระขากแขนขาวอย่างแรงจนใบหน้าของชานยอลกระแทกเข้ากับแผงอกแข็งเต็มๆ อาการแสบจี๊ดๆ ที่ปากล่างทำให้ชายหนุ่มรู้ว่าเขาปากแตก อ้าปากจะโวยวายใส่ไอ้บ้าแดนมังกรแต่ก็เปลี่ยนเป็นเสียงร้องอีกครั้งเมื่อทั้งตัวถูกแขนยาวๆ ทั้งสองข้างรวบไว้แน่นแล้วหมุนตัวพลิกขึ้นมาทับจนเขาหายใจแทบไม่ออก
สะบัดตัวแรงๆ จนหลุดออกจากวงแขนแกร่ง อารมณ์โมโหพุ่งขึ้นถึงขีดสุดเพราะโดนจับพลิกหลายรอบ ฝ่ามือขาวกำแน่นเงื้อหมัดขึ้นหวังจะซัดหน้าอีกฝ่ายให้มันรู้แล้วรู้รอด แต่ร่างสูงกลับไหวตัวทัน
คริสยกมือขึ้นปัดหมัดที่ตรงเข้ามาหาแล้วพลิกมือรวบสองแขนไว้ด้วยกัน ใบหน้าเรียบนิ่งแต่มืออีกข้างเลื่อนลงปลดหัวเข็มขัดแล้วดึงออกจากเอวอีกคน ใช้มันพันรอบข้อมือขาวเอาไว้ ไม่สนใจเสียงร้องโวยวายจากเจ้าของมันแม้แต่น้อย
“จะทำอะไร! ปล่อยนะเว้ย!!” เพราะส่วนที่เหลือต้องโยงไปล็อคไว้กับเสาเหล็กมุมเตียง ร่างสูงจึงจำเป็นต้องช้อนตัวอีกคนให้ขยับนอนในแนวทแยง ไม่สนว่าจะหันหัวหันเท้าผิดธรรมชาติไปซักหน่อย เพราะความพยศดื้อรั้นของเด็กตรงหน้าก็ทำให้สภาพเตียงตอนนี้ไม่น่าเรียกว่าเตียงเท่าไหร่
“มัดทำไม ไอ้เหี้ย! ปล่อยนะ!!” ขนาดสองมือโดนตรึงไว้ก็ยังไม่วายจะตะโกนคำหยาบปาวๆ สองขายกขึ้นถีบสะเปะสะปะไม่ให้อีกคนได้เข้าใกล้แต่ก็เป็นอีกครั้งที่คริสเหนือกว่า จับข้อเท้าทั้งสองข้างแยกออกแล้วแทรกตัวไปเข้าไปอยู่ตรงกลาง โน้มตัวไปข้างหน้าดันให้ขาเรียวยกขึ้นเกือบจะชิดแผ่นอกเนียน
“ออกไป!”
“หยุดดิ้นซะทีชานยอล”
คริสโน้มตัวลงมาใกล้กว่าเดิม มือใหญ่จับใบหน้าเรียวไว้แล้วก้มลงบดจูบรุนแรงที่ช่วงชิงแทบทุกลมหายใจจนทำเอาชานยอลมึนคาที่เพราะทั้งกลัวทั้งเหนื่อย แม้จะรู้ว่าไม่มีประโยชน์แต่สองขาก็ขยับถีบผิดๆ ถูกๆ ยามที่ร่างกายโดนอีกฝ่ายลูบไล้ ส่งเสียงอึกอักเบาๆ พร้อมกับที่แผ่นอกขาวกระตุกขึ้นเมื่อริมฝีปากร้อนเลื่อนลงไปครอบครองจุดไวสัมผัสทั้งสองข้าง
เหมือนหัวใจหล่นวูบเมื่อรู้ตัวอีกทีมือใหญ่ๆ นั้นก็กำลังดึงทั้งกางเกงยีนส์และชั้นในของเขาออกจากสะโพก ดิ้นต่อต้านอีกครั้งจนคริสต้องก้มลงขบกัดที่ลำคอขาวจนเป็นรอยฟัน
“โอ๊ย! ไม่..อย่านะ ..เฮีย!!” คริสอาศัยช่วงที่ร่างโปร่งชะงักเพราะความเจ็บจัดการดึงกางเกงสองชิ้นออกจากตัวอีกคนได้สำเร็จ นึกสงสัยว่าเด็กคนนี้ไปเอาแรงมาจากไหนนักหนาถึงดิ้นไม่หยุดซักที
“ชู่ว ไม่เอาน่า”
สุดท้ายร่างสูงก็ปราบพยศด้วยการก้มลงจูบอีกรอบ น้ำหนักตัวที่ทิ้งลงไปทำให้ต้นขาขาวขยับได้น้อยลง แรงดูดดุนหนักหน่วงสอดลึกจนเจ็บริมฝีปาก น้ำสีใสไหลซึมออกตามมุมปากเป็นสัญญาณว่าเรียวลิ้นทั้งสองโรมรันกันมานานพอแล้ว
“อื้ออ! อื้อ!!” ส่งเสียงประท้วงอยู่ในลำคอ เมื่อมือใหญ่ตรงเข้ากอบกุมส่วนที่เกือบจะหลับไหลลงไปแล้วให้ตื่นตัวขึ้นมาใหม่ บีบคลึงแล้วขยำรูดขึ้นลงไม่เป็นจังหวะ กระแสความรู้สึกที่พุ่งขึ้นมากะทันหันทำให้ลมหายใจสะดุด สะบัดหน้าหนีจูบจาบจ้วงได้ในที่สุด
“ฮ.. ปล่อย อึก...ปล่อยผม” ตาคมจับจ้องอยู่ที่สีหน้าของคนใต้ร่าง ใบหน้าบิดเบี้ยวแต่สายตาที่มองมาเต็มไปด้วยความคับแค้นใจ ทว่าสิ่งที่เขากระทำตอบกลับไปคือการยกยิ้มแล้วเร่งจังหวะที่มือให้เร็วขึ้นกว่าเดิมจนมันขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ ปลายนิ้วโป้งกดถูแรงๆ ที่ส่วนปลายในขณะที่อุ้งมือก็กำแน่นขึ้นเพื่อเร่งเร้าให้อารมณ์ของอีกคนเพิ่มมากขึ้น
มันได้ผล ชานยอลคำรามต่ำในลำคอ ต้นขาขาวที่แนบอยู่ข้างสะโพกทำให้คริสรู้สึกได้ว่าร่างตรงหน้าเกร็งจนสั่น หน้าท้องกระตุกเกร็งปลดปล่อยคลื่นอารมณ์ระลอกสุดท้ายออกมาเลอะฝ่ามือหนาและหน้าขาตัวเองในเวลาต่อมา
เหงื่อเม็ดเล็กผุดซึมตามไรผมและแผ่นหลัง หน้าอกขยับขึ้นลงตามแรงหอบ ริมฝีปากบวมแดงที่เกิดจากการจูบซ้ำๆ เผยอออก ทำให้คริสอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปแตะเล็มมันอีกครั้ง ริมฝีปากและปลายจมูกโด่งที่คลอเคลียอยู่ทั่วใบหน้าและลำคอทำให้ชานยอลหลับตาโดยอัตโนมัติ
“หายเหนื่อยรึยัง?” เสียงทุ้มที่กระซิบชิดใบหูทำให้คนได้ยินขมวดคิ้วฉับเพราะไม่เข้าใจความหมาย คริสเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งก่อนที่ชานยอลจะรู้สึกว่าสะโพกถูกยกประคองให้ลอยขึ้นแล้ววางลงอีกครั้งบนหมอน
ร่างโปร่งคงจะงงอยู่แบบนั้นถ้าคริสไม่ยืดตัวขึ้นปลดเข็มขัดและตะขอกางเกงซะก่อน พอสมองประมวลผลได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เสียงแหบพร่าก็โวยวายขึ้นทันที ข้อมือที่ถูกพันธนาการไว้กระตุกแรงๆ จนขึ้นรอยแดงแต่ก็เท่านั้นเพราะมันไม่มีทีท่าว่าจะหลุดออกเลย
“เดี๋ยว อย่านะเฮีย ผมไม่! ...อ้า!!”
ไม่ทัน
กล้ามเนื้อทุกส่วนหดเกร็งขึ้นมาพร้อมกันเมื่อช่องทางด้านหลังถูกนิ้วแข็งๆ รุกล้ำแบบไม่ทันได้ตั้งตัว สองมือกำเข้าหากันแน่น เล็บบนนิ้วมือจิกลงกับฝ่ามือจนซีดขาว ต้นขาสองข้างพยายามหนีบเข้าหากันแต่ก็แพ้แรงอีกคนหนึ่งที่ดันมันให้แยกออกกว้าง
ฟันขาวกัดแน่นลงบนริมฝีปากที่ตอนนี้กลายเป็นสีระเรื่อแวววาวจนคริสนึกเป็นห่วงว่าคนเป็นน้องจะได้แผล ขยับนิ้วเข้าออกช้าๆ ก่อนจะเพิ่มจำนวนแล้วโน้มตัวลงไปแตะลิ้นลงกับริมฝีปากตรงที่โดนฟันขบไว้แน่น กดคลึงและไล้เลียอยู่อย่างนั้นจนชานยอลยอมผ่อนแรง ร่างสูงลอบยิ้มเมื่อลิ้นเล็กๆ ขยับออกมาฉกดุนลิ้นเขากลับ
“อี๊อ! ฮ่ะ..” เป็นอีกครั้งที่ชานยอลสะดุ้งตกใจมองหน้าคริสด้วยแววตาตื่นตระหนกเมื่อจู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนโดนกระชากลงจากที่สูงจนเสียววาบไปทั่วท้องน้อย
ชานยอลรู้ว่ามันคืออะไร และเพราะสายตาที่เต็มไปด้วยประกายนึกสนุกปนเจ้าเล่ห์ของคริสทำให้ร่างโปร่งตวัดสียงห้าม
“อย่านะเฮีย”
“...”
“อ๊ะ.. บอกว่า..ย....อย่า”
“หึ”
“ฮึ่ก..อื้อ แม่งเอ๊ย”
สบถออกมาอย่างหัวเสียแต่ก็ต้องเม้มปากเชิดหน้าขึ้นในเวลาต่อมาเพราะนิ้วที่กดนวดลงกับจุดกระสันอยู่เมื่อกี้กลายเป็นถอนออกแล้วใส่เข้ามาใหม่ให้กระแทกตำแหน่งเดิมซ้ำๆ จนเจ้าของร่างเกร็งไปทั้งตัวแทบจะเสร็จอีกรอบทั้งๆ ที่ส่วนนั้นยังไม่ได้ถูกแตะต้องเลย
แผ่นอกขาวเนียนกลายเป็นจุดสนใจของริมฝีปากหนา ลากลิ้นสากวนรอบยอดยกทั้งสองข้างจนเจ้าของร่างแอ่นตัวเข้าหาปลายลิ้นอุ่นโดยอัตโนมัติ ซึ่งคริสก็ตอบสนองอาการนั้นด้วยการลงน้ำหนักมากขึ้นจนได้ยินเสียงครางปนหอบหนักๆ ของคนตรงหน้า
แตะไล้ วนเวียน ดุนดันหนักๆ หลอกล่อให้อีกคนเบนความสนใจจากสิ่งที่เขากำลังจะทำ
นิ้วยาวค่อยๆ ถอนออกจากตัวอีกคนช้าๆ จนเมื่อช่องทางนั้นว่างเปล่าร่างหนาก็ยกตัวขึ้นไปแนบแก้มตัวเองเข้ากับแก้มอีกคน ตัวตนส่วนล่างจ่ออยู่ที่ปากทางเข้าพอดิบพอดีก่อนที่คริสจะค่อยๆ กดตัวเองเข้าไป
“!!!”
ดวงตากลมโตเบิกโพลงขึ้นพร้อมกับเรียวปากที่อ้าออกเหมือนจะส่งเสียงร้องแต่เพราะเจ็บเกินบรรยายเลยทำได้แค่ขยับปากพะงาบๆ โดยไม่มีซุ่มเสียงใดๆ หลุดออกมา
ขอบตาร้อนผ่าวก่อนที่ภาพเพดานสีขาวจะพร่าเบลอเพราะถูกบดบังด้วยน้ำตา เสียงหายใจเฮือกใหญ่ๆ ดังขึ้นหลายครั้ง ความเจ็บที่ช่วงล่างกลบความรู้สึกต่างๆ ก่อนหน้าจนหมดสิ้น แม้แต่เสียงปลอบประโลมที่คนเป็นพี่พร่ำบอกอยู่ข้างหูก็แทบไม่ได้ยิน
“ไม่ต้องกลัว หายใจลึกๆ” มือก็ลูบไปตามสีข้าง ปากก็กดจูบลงข้างขมับ คริสขบกรามแน่นจนเป็นสันนูนขึ้นแต่ก็ต้องใจเย็นไว้เพราะชานยอลบีบรัดเขาแน่นเกินไป
“เจ็บ ผมเจ็บ!” ทำได้แค่ร้องบอกเสียงสั่นเพราะอีกคนยังคงเสือกไสตัวเองเข้ามาเรื่อยๆ จนสุดแล้วนิ่งค้างไว้อย่างนั้น ทั้งเจ็บทั้งจุกจนสมองตื้อไปหมด ชานยอลไม่มีทางเลือกนอกจากจะเงยหน้าสูดหายใจลึกๆ ตามที่อีกคนบอกแต่ก็ไม่ดีขึ้น
ใบหน้าเหยเกส่ายไปมา ทรมานจนเกือบจะส่งเสียงสะอื้นออกมาถ้าร่างสูงไม่ก้มลงแตะจูบบนริมฝีปากซะก่อน เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยออกมาเบาๆ แต่มันกลับก้องเข้าไปในหู
“อย่าเกร็ง ชานยอล”
“ฮ..” ชื่อตัวเองในประโยคคำสั่งนั้นทำให้เจ้าของมันกำผ้าปูที่นอนเหนือศีรษะแน่น
อยากจะคิดว่านี่คือความฝัน
ฝันไปว่าเขากำลังเป็นฝ่ายโดนกระทำ
ให้ปาร์คชานยอลที่กำลังร้องครวญครางหมดทางเลือกอยู่ตอนนี้เป็นแค่ฝันไป
“ไหวรึเปล่า?”
“อย่า.. อย่าเพิ่ง” แววตาสั่นระริกเมื่อคริสทำท่าจะขยับสะโพก
“ครั้งแรกสินะ” สองแขนแกร่งค้ำตัวเองลงกับที่นอนเพื่อมองหน้าชานยอลชัดๆ ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกว่าสีหน้าเอาเรื่องนั้นมันกระตุ้นเขาแปลกๆ
“...” หลับตาข่มความอัปยศเอาไว้แล้วเบือนหน้าไปทางอื่น ไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว ไม่อยากเห็นสายตาที่กำลังสนุกของคนตรงหน้า ขมวดคิ้วแน่นและยิ่งเบียดหน้าซุกลงกับต้นแขนตัวเองเมื่อสิ่งที่อยู่ในกายเริ่มเคลื่อนไหวเข้าออก
“หันมาหน่อย”
คนได้ยินหลับหูหลับตานอนนิ่ง กลั้นหายใจแล้วผ่อนออกแรงๆ ราวกับไม่ได้ยิน คริสเอื้อมมือขึ้นไปคลายปมเข็มขัดที่พันธนาการอีกคนไว้ด้วยมือเดียว
“เร็ว”
สั่งสั้นๆ ก่อนจะกดสะโพกเร็วขึ้นและลึกขึ้นกว่าเดิมพาให้ส่วนนั้นดันเข้ามากระทบกับจุดอ่อนไหวในตัวชานยอลรุนแรงต่อเนื่อง ผวาเฮือกเข้าหาคนตรงหน้า สองมือที่เพิ่งได้รับอิสระเกาะยึดไหล่กว้างเอาไว้แน่น
“อ๊า.....ห อื้อ ..อื้อ” คิดไว้ว่าจะลืมตาแล้วด่าด้วยคำเจ็บๆ ซักคำสองคำ แต่ความตั้งใจเหล่านั้นถูกแทนที่ด้วยเสียงร้องที่ชานยอลเองก็ยากจะควบคุมไม่ให้มันหลุดรอดออกมา
ยกหลังมือขึ้นมาปิดปากก็ถูกอีกคนดึงไปพาดไว้กับลำคอหนา จะเม้มแน่นแค่ไหนสะโพกแกร่งก็เร่งจังหวะกดย้ำถี่รัวจนต้องอ้าปากเงยหน้าผ่อนลมหายใจหอบหนัก
“อืม..”
เสียงฮึมฮำในลำคอเหมือนเจ้าตัวมีความสุขเหลือเกินดังอยู่ใกล้ๆ ทำให้ชานยอลทั้งโกรธทั้งอาย สาบานได้ว่าหลุดจากตรงนี้เมื่อไหร่ชานยอลจะขอชกหน้าไอ้เฮียเวรตะไลนี่ซักที
“อ่ะ อ้ะ.. เฮีย.. ช ช้าหน่อย”
“ไม่ได้แล้ว”
คริสหมายความตามนั้นจริงๆ ร่างหนายันตัวเองไว้ด้วยมือเดียว แล้วกลางลำตัวของชานยอลก็ถูกกอบกุมไว้ ขยับสาวขึ้นลงสวนกับจังหวะที่กายแกร่งขยับเข้าหาแรงขึ้นเรื่อยๆ เสียงสูดปากดังขึ้นคลอไปกับเสียงหอบฮั่กของชานยอล
จนเมื่อร่างเล็กกว่าทิ้งตัวลงกับเตียง ขยำทึ้งผ้าปูที่นอนแล้วกระตุกตัวอย่างแรงเมื่อทุกอย่างถูกปลดปล่อย ปลายเท้างองุ้มลามไปถึงกล้ามเนื้อภายในช่องทางอุ่นร้อนที่ขมวดตัวแน่นกว่าเดิมพาให้คนที่ยังไม่ถึงฝั่งต้องเร่งสาวสะโพกถี่ๆ และไม่นานก็เกร็งตัวกดสะโพกเข้าไปแช่ค้างไว้ให้ลึกที่สุดฉีดพ่นของเหลวสีขุ่นเข้าไปในตัวอีกคน
“อ่าห์ / อื๊อออ”
ส่งเสียงออกมาแทบจะพร้อมกันก่อนที่คริสจะถอนหายใจแล้วทิ้งตัวลงซุกหน้าลงบนบ่าของคนใต้ร่าง สูดอากาศปรับลมหายใจกันอยู่พักหนึ่งกว่าจะกลับมาเป็นปกติ แต่ก็ยังแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกถึงแรงดันที่ไหล่
“เฮีย”
“...”
“นี่”
“...”
“คริส!”
“ครับ?”
เป็นคำขานรับที่สุภาพแต่น่าฆ่าที่สุดของโลกใบนี้
“ออกไป”
ร่างสูงหัวเราะเบาๆ ยันตัวขึ้นสบตากับลูกแก้วกลมใสที่เหมือนจะฆ่าเขาได้ทุกเมื่อ ลมหายใจแอบสะดุดเมื่อได้พิจารณาคนตรงหน้าชัดๆ
ใบหน้าและลำคอซับสีเลือดจากกิจกรรมที่เพิ่งผ่านพ้นไป ริมฝีปากสีพีชแวววาวเพราะถูกเคลือบด้วยน้ำใส ไหนจะรอยจูบตามไหปลาร้าและแผ่นอกขาวๆ นั่นอีก
กระพริบตาเรียกสติเมื่อโดนชกเข้าที่ไหล่ นึกขำกับการกระทำตัวเองแล้วยืดตัวขึ้นกดจูบแรงๆ บนริมฝีปากอิ่ม ค่อยๆ ถอนกายที่เชื่อมกันอยู่ออก ส่งผลให้ชานยอลสูดปากแล้วเบือนหน้าหนีเพราะความแสบ
ตาคมมองภาพนั้นพร้อมกับความวูบหวามที่ก่อตัวขึ้นในอก
แต่ในเมื่ออีกฝ่ายออกปากไล่แล้ว คริสจะยอม..
ยอมปล่อยไปได้ยังไงล่ะ
ส่วนนั้นที่ควรจะหลุดออกจากช่องทางของชานยอลกลายเป็นกดแทรกเข้ามาใหม่จนเจ้าของร่างสะดุ้งเพราะความจุก ตวัดสายตาวาวโรจน์ขึ้นไปมองก็พบเพียงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนที่มันจะพร่าเบลอเพราะใบหน้านั้นเคลื่อนเข้ามาใกล้จนกลายเป็นไร้ช่องว่างไปในที่สุด
หมดสิทธิพูดเพราะโดนตะโบมจูบช่วงชิงลมหายใจ ได้แต่ส่งเสียงอื้ออึงอยู่ในคอ
หมดสิ้นเรี่ยวแรงจะขัดขืนเมื่อคริสเริ่มขยับสะโพกสร้างจังหวะวาบหวามอีกครั้ง
ร้อนแรงและล้ำลึกมากขึ้นเรื่อยๆ
ทุกสัมผัสและทุกการเคลื่อนไหว
มอมเมาให้ล่องลอย
จนสุดท้ายแล้วคริสก็กลายเป็นผู้นำทางอย่างสมบูรณ์แบบ
“ฮ่ะ.. อ๊ะ เฮีย”
จับจูงอีกคนไปสู่ห้วงอารมณ์ที่ไม่เคยรู้จัก หลอกล่อให้ตอบสนองโดยไม่รู้ตัว
“ค.. อึก คริส”
และเป็นอยู่อย่างนั้น
ทั้งคืน..
FIN.
ได้ยินเสียงเหมือนอะไรหัก
.
.
.
อ๋อ
ธงเมะชานยอล
#ฟิคเฮียหักธง
แต่งดีมากเลยค่ะ ภาษาสนุกตั้งแต่ฉากกินเหล้ากันแล้ว มาถึง NC นี่ไม่ต้องพูดถึง แต่งหักธงเมะได้เก่งมาก หู้ยยยย ปรบมือสิบครั้งแล้วกราบ ><
ตอบลบไรท์แต่งเรื่องเต็มทีค่ะชอบบบ
ตอบลบ